“สบู่” เป็นสินค้าที่ต้องซื้อตลอด ไม่ว่าเศรษฐกิจจะเป็นไปในทางใดก็ตาม เพราะสบู่คือสินค้าที่ใช้แล้วต้องซื้ออีก ซื้อขายง่าย ราคาไม่แพง ผู้บริโภคจะตัดสินใจง่ายกว่าสกินแคร์หรือสินค้าสิ้นเปลืองประเภทอื่น เพราะใช้ทุกเพศทุกวัย ใช้กันทุกบ้านทุกครัวเรือน และต้องใช้ชำระล้างกันทุกวัน ด้วยเหตุนี้การทำสบู่ขายจึงเป็นธุรกิจที่น่าสนใจ และมีการทำแบรนด์สบู่ตัวเองขายมากขึ้น ทำไมถึงได้รับการสนใจและต้องการเป็นเจ้าของแบรนด์? เป็นเพราะเจ้าของแบรนด์มักจะรวย? แล้วขายสบู่ยังไงให้รวย? และทำไมเจ้าของแบรนด์ถึงรวย? นั่นเป็นเพราะว่า ….
1. สินค้าต้นทุนต่ำแต่ขายราคาแพง การที่เจ้าของแบรนด์ส่วนใหญ่จะรวยเพราะสั่งซื้อสินค้าในราคาต้นทุนต่ำ แต่ขายปลีกในราคาที่สูงได้ 3–5 เท่าของต้นทุน เพราะแทนที่จะไปติดต่อรับสินค้าจากคนกลาง แต่ไปติดต่อโรงงานผลิตโดยตรง ก็จะได้ราคาต้นทุนที่ต่ำกว่าและได้กำไรเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ทั้งนั้นราคาขายปลีกก็ต้องขึ้นอยู่กับคุณสมบัติและคุณภาพของสินค้าที่ต้องสมเหตุสมผลด้วย เพราะถ้าสบู่แทบจะไม่มีคุณสมบัติพิเศษอะไรเลย เพียงแค่ชำระล้างร่างกายทั่วไป แต่ตั้งราคาสูง ก็เป็นไปได้ยากที่จะมีคนซื้อ
2. มีรายได้ที่เข้ามาตลอดเวลา หรือบางคนเรียกว่า Passive Income เพราะเจ้าของแบรนด์อาจไม่ได้จำหน่ายเพียงคนเดียว อาจมีหน่วยหรือช่องทางอื่นๆจำหน่ายด้วย เช่น ตัวแทนจำหน่าย ร้านที่รับลงสินค้า ฯลฯ เพราะในขณะที่เจ้าของแบรนด์อาจกำลังเดินทางท่องเที่ยวอยู่ แต่ก็ยังมีหน่วยอื่นๆที่ทำรายได้ให้เจ้าของแบรนด์อยู่
3. เจ้าของแบรนด์ได้รับรายได้เต็ม100% ทำมากได้มากอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย โดยไม่ต้องถูกลดหลั่นปันกำไรจากองค์กรใด นอกจากการคำนวณกำไรแบ่งตัวแทนหรือส่วนอื่นๆซึ่งก็ขึ้นอยู่กับรายละเอียดปลีกย่อยของแต่ละคน
4. ช่องทางรายได้ที่ไม่จำกัด เพราะสมัยนี้มีช่องทางการจำหน่ายและโฆษณาที่มากขึ้น ไม่ว่าจะสื่อโซเชียล เฟสบุค อินสตราแกรม หน้าเว็บเพจต่างๆ และยังสามารถทำการขายได้ตลอด 24 ชม. โดยไม่จำกัดสถานที่เหมือนเมื่อก่อนที่ต้องมีหน้าร้าน จึงอาจลดค่าใช้จ่ายจากเรื่องค่าเช่าพื้นที่ไปบริหารส่วนอื่นแทน
เชื่อว่ามีใครหลายคนที่ต้องการผลิตสบู่ขายมักจะมีคำถาม ทําสบู่ขายแบรนด์ตัวเองต้องใช้ต้นทุนการผลิตสบู่เท่าไร ทําสบู่ขายต้นทุนแพงแน่เลย ซึ่งในปัจจุบันนี้การลงทุนทําสบู่ขายสามารถเริ่มตั้งแต่หลักพันไปจนถึงหลักหมื่นบาท ที่เป็นการลงทุนในการผลิตสบู่สร้างแบรนด์กับโรงงาน แต่ยังไม่รวมค่าลงทุนการตลาด การจดทะเบียนให้ถูกต้องตามกฏหมาย และดีเทลอื่นๆที่อาจต้องการเพิ่ม
สำหรับนักธุรกิจมือใหม่หรือเจ้าของแบรนด์รายย่อย แน่นอนว่าต้องมีการแข่งขันเชิงธุรกิจกับแบรนด์อื่นๆ อย่างแบรนด์ใหญ่ๆที่ติดตลาดมานาน แต่เนื่องจากสบู่เป็นสินค้าที่ต้องใช้กันทุกบ้าน จึงยังคงมีที่ว่างในตลาดสำหรับแบรนด์น้องใหม่ ให้เป็นทางเลือกกับผู้บริโภคได้มากขึ้น อย่างเมื่อก่อนมีเพียงสบู่ไม่กี่ยี่ห้อและจำกัดกลิ่น แต่ตอนนี้มีทั้งสบู่ก้อน สบู่เหลว สบู่กลีเซอรีน สบู่เพื่อสุขภาพ การผลิตสบู่ผิวขาวอย่างไวท์เทนนิ่งโฟม ครีมอาบน้ำ สบู่สำหรับเด็ก สบู่สำหรับผู้ชาย และก็มีกลิ่นมีสีให้เลือกมากขึ้น
ส่วนแบ่งการตลาดของการทําแบรนด์สบู่จะแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ๆคือ ตลาดสบู่ก้อน และ ตลาดสบู่เหลว และยังแบ่งออกเป็น ตลาดสบู่สำหรับความงาม ตลาดสบู่สำหรับสุขภาพ และ ตลาดสบู่สำหรับเด็ก ผู้ที่ต้องการทําแบรนด์สบู่ของตัวเองก็สามารถแจ้งเกิดแบรนด์น้องใหม่ได้ไม่ยาก แต่มีข้อควรระวังในเรื่องของคู่แข่งการตลาด เพราะนอกจากเราจะต้องกำหนดกลุ่มเป้าหมายลูกค้าแล้ว จะต้องดูว่าคู่แข่งการตลาดสินค้าประเภทเดียวกันกับเราเขาเป็นในรูปแบบไหน เช่น ทําแบรนด์สบู่สครับ ทําแบรนด์สบู่สมุนไพร เรทราคาที่เขาขายเท่าไร ซึ่งเราต้องมีการสร้างความโดดเด่นและอัตลักษณ์ให้กับแบรนด์ เพื่อกระตุ้นให้คนเห็นครั้งแรกแล้วต้องการจะซื้อไปลองใช้ เมื่อใช้แล้วถูกใจก็จะมีการซื้อซ้ำ
องค์ประกอบในการสร้างแบรนด์ที่ผู้อยากทําแบรนด์สบู่ต้องรู้มีอะไรบ้าง
1. คุณสมบัติของแบรนด์ (Attribute) ในข้อนี้จะหมายถึงรูปลักษณ์ภายนอกที่เห็นเด่นชัดด้วยสายตา
2. คุณประโยชน์ของแบรนด์ (Benefit) ประโยชน์หรือสรรพคุณสบู่ที่ผู้บริโภคจะได้รับ ซึ่งได้จากการใช้สินค้า
3. คุณค่า (Value) คุณค่าของแบรนด์ เมื่อผู้บริโภคใช้แบรนด์แล้วรู้สึกอย่างไร ความคุ้มค่าที่ผู้บริโภคจะได้รับ
4. อัตลักษณ์ (Personality) มีความเป็นตัวตนเฉพาะของสินค้า เช่น รูปทรงของสบู่ หรือมีกลิ่นเฉพาะ ที่เพียงได้กลิ่นก็รู้ว่าเป็นแบรนด์อะไร หรือเพียงแค่เห็นแพ็กเกจก็สามารถนึกกลิ่นได้
แล้วจะสร้างแบรนด์สบู่อย่างไรให้โดดเด่นเหนือคู่แข่ง?
1. เน้นสินค้าที่เป็นธรรมชาติ เพราะคนหันมาให้ความใส่ใจเรื่องสุขภาพกันมากขึ้น รวมไปถึงการรักสิ่งแวดล้อม ดังนั้นเทรนด์เรื่องสินค้าที่เน้นธรรมชาติ ทั้งวัตถุดิบที่ให้ความปลอดภัยต่อสุขภาพ บรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ไม่สร้างมลภาวะหรือเป็นขยะที่กำจัดยาก ยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง
2. สารสกัดที่หายากหรือเป็นสารสกัดที่ค้นพบใหม่ เพราะวัตถุดิบที่หายากหรือเพิ่งถูกค้นพบจะให้ความรู้สึกมีค่า เพราะเป็นของหายาก หรือเป็นสิ่งที่ไม่เคยใช้ไม่เคยรู้จักมาก่อน ดังนั้นการใส่สารสกัดหรือมีส่วนประกอบใหม่ๆจะเป็นที่สนใจของผู้บริโภคได้ดี เช่น สบู่โสม สบู่คอลลาเจน สบู่เมือกหอยทาก สบู่กลูต้าฯ
3. นวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ๆ เพราะสินค้าที่ผลิตด้วยนวัตกรรมใหม่ การใช้เทคโนโลยีใหม่ๆเข้ามามีส่วนการผลิต จะสร้างความน่าสนใจให้กับผู้บริโภคได้ดีเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นเนื้อสบู่ สีและกลิ่นที่มีให้เลือกมากขึ้น เช่น ก่อนนี้จะมีเพียงแค่สบู่ก้อน แต่ปัจจุบันมีทั้งเจลอาบน้ำ ครีมอาบน้ำ สบู่น้ำหอม สบู่ทองคำ สบู่โฟม สบู่คริสตัล เป็นต้น
4. ตอบโจทย์การใช้ชีวิตประจำวัน เพราะชีวิตปัจจุบันจะมีการเร่งรีบ และกิจวัตรประจำวันที่แตกต่าง การที่สบู่สามารถตอบโจทย์กับชีวิตประจำวันแต่ละคนได้ยิ่งได้รับความสนใจ เช่น สบู่ที่ใช้ได้ทั้งหน้าและตัว ลดขั้นตอนสำหรับคนที่ไม่ต้องการความยุ่งยาก สบู่ลดกลิ่นตัวสำหรับคนที่ออกกำลังกายมีเหงื่อเยอะ หรือการสร้างแบรนด์สบู่ลดสิวฝ้า ฯลฯ
5. มีเอกลักษณ์ การมีเอกลักษ์จะทำให้มีความโดดเด่นและเป็นที่จดจำได้ง่าย เป็นกลิ่นมีความหมาย อย่างกลิ่นที่ให้ความเฟรซ กลิ่นที่ให้ความหอมหวาน และเป็นกลิ่นเฉพาะ อย่างเช่นมีใครอาบน้ำสักคนแล้วเราได้กลิ่นสบู่ก็รู้ได้ว่าสบู่กลิ่นอะไรของแบรนด์อะไร
6. มีเรื่องราวหรือเป็น Series ในแต่ละเซ็ต หากแบรนด์ใดที่ผลิตออกมาเป็นเรื่องราว เป็นเซ็ตเฉพาะจะยิ่งมีความเป็นพรีเมียม มีความเป็นพิเศษกว่าการผลิตออกมาเพียงแค่ส่วนเดียว เช่น การทำสบู่สมุนไพร สบู่กลีเซอรีน เป็นซีรี่ส์เซ็ตอย่าง สบู่ดาวเรือง สบู่ทับทิม สบู่มะขาม สบู่มะขามตรีผลา สบู่เลม่อน หรือ เซ็ตสบู่ที่เน้นกลิ่นหอม สบู่กลิ่นซีตรัส สบู่กลิ่นวู้ดดี้ สบู่กลิ่นฟลอรัล เป็นต้น

สบู่เมลาสม่า ลดรอยจุดด่างดำ รอยสิว ฝ้า กระ ปรับสภาพผิวให้เรียบเนียน กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ให้ผิวกระจ่างใส

สบู่เมือกหอยทาก ผลัดเซลล์ผิวใหม่ ให้ผิวใส ช่วยฟื้นฟูผิว ผิวชุ่มชื้น ป้องกันการเกิดริ้วรอย

สบู่อาร์บูติน คอลลาเจน ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น ผิวใส ป้องกันปัญหาผิวหมองคล้ำ ชะลอการเสื่อมสภาพของเซลล์ผิว

สบู่ดาวเรือง ควบคุมความมัน ลดการเกิดสิว ช่วยชำระล้างสิ่งสกปรก ให้ผิวแลดูกระจ่างใส

สบู่สมุนไพร 9 ชนิด ช่วยทำความสะอาดสิ่งสกปรกอย่างล้ำลึก ยับยั้งการเกิดสิว พร้อมบำรุงผิวให้เรียบเนียน

สบู่ดราก้อนบลัด ลดสิว ลดการอักเสบ กระชับรูขุมขน ขจัดความมัน

สบู่มะขามตรีผลา ผลัดเซลล์ผิวเก่า เพิ่มความแข็งแรงให้ผิว ด้วยสารสกัดตรีผลา ต่อต้านอนุมูลอิสระ

สบู่เลม่อน เฟรซ ผลัดเซลล์ผิว ให้ความเย็นสดชื่น

สบู่สครับกาแฟขมิ้น ขจัดขี้ไคล ผลัดเซลล์ผิว บำรุงผิวให้กระจ่างใส

สบุ่กุหลาบ ให้ผิวขาวใส มีความยืดหยุ่นด้วยการกระตุ้นสร้างคอลลาเจนให้กับผิว

สบู่คอลลาเจน ไฮยา ไดมอนด์ เพิ่มความชุ่มชื่น ให้ผิวเต่งตึง ดูแลปัญหาริ้วรอย
จุดเด่นอีกสิ่งคือเอกลักษณ์และความแตกต่างของ แพ็กเกจจิ้ง ที่แสดงถึงตัวตนของสินค้านั้นๆได้โดยอาจไม่ต้องพยายามทำความเข้าใจว่า สบู่ชิ้นนี้เป็นสบู่อะไร เห็นเพียงตัวแพ็กเกจก็รู้ทันที่ว่านี่คือสบู่ว่านหางจระเข้ ยิ่งมีความแตกต่างและโดดเด่น ก็สร้างความสนใจให้กับผู้ซื้อได้ เช่น การเล่าเรื่องที่มา หรือการวาดรูปสัญลักษณ์ อาทิเช่น วาดเป็นรูปดอกโมกบนแพ็กเกจสบู่ที่ทำจากดอกโมก
กรณีสนใจจะทำแบรนด์เพื่อเป็นสินค้าส่งออก จะต้องคำนึงถึงคุณภาพของวัตถุดิบ การจดอย.อย่างถูกต้อง อัตลักษณ์ของสินค้าที่ต้องแตกต่างและมีความโดดเด่น ไปวางขายแล้วจะขายได้ไหม จะต้องมีความแตกต่าง มีจุดเด่นเรื่องอะไร จะต้องมีออฟเฟอร์ที่ดีกว่า เช่น ราคาจะต้องไม่แพง เป็นราคากลาง ที่สามารถจำหน่ายได้ง่าย คนทำแบรนด์จะต้องมีความเข้มแข็งและอดทนสูง ที่สำคัญต้องมีแพชชั่น มีแรงจูงใจและผลิตออกมาจากใจ จะทำให้สินค้ามีคุณภาพ เพราะเราอยากทำออกมาเพื่อใช้ได้ดีจริง ตลาดต่างชาติก็อาจจะเริ่มยอมรับได้ แต่ต้องใช้เวลานานสักหน่อย เพราะการแข่งขันสูงทั่วโลก
โรงงานผลิตสบู่สร้างแบรนด์ที่ได้มาตรฐานดูจากอะไร?
แน่นอนว่าสำหรับผู้ที่ต้องการสร้างแบรนด์สบู่เป็นของตัวเองก็ต้องการสั่งทําสบู่แบรนด์ตัวเองกับโรงงานผลิตสบู่ที่ดีที่สุด แต่จะดูอย่างไรว่าโรงงานรับผลิตสบู่มีมาตรฐาน เรามีวิธีมาฝาก..
1. โรงงานรับผลิตสบู่ทําแบรนด์แบบoemสบู่ครบวงจร เพราะการสร้างแบรนด์ใหม่สำหรับผู้ที่อยากทําสบู่ขายเป็นเรื่องที่ต้องพร้อมรับมือกับการแข่งขันในตลาด การเลือกโรงงานทําสบู่ที่มีมาตรฐาน บริการได้ครบถ้วนทุกขั้นตอน ตั้งแต่การช่วยวางแผน การออกแบบแพ็กเกจ การคิดค้นและพัฒนาสูตร ให้คำปรึกษาเรื่องการตลาด ทําแบรนด์สบู่พร้อมจดอย. ให้คำแนะนำหาช่องทางการกระจายสินค้า ฯลฯ เพราะสำหรับผู้ต้องการทำแบรนด์มือใหม่จะยังไม่มีประสบการณ์ การมีโรงงานที่บริการให้ครบจบแบบนี้จะช่วยให้ผ่านไปได้เป็นอย่างดี
2. โรงงานทําสบู่มีการรองรับมาตรฐาน เพราะคุณภาพและความปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญมากต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสำหรับสินค้าอุตสาหกรรม ดังนั้นการเลือกโรงงานผลิตสบู่oemsoapที่น่าเชื่อถือ มีการรับรองมาตรฐานจากกระทรวงอุตสาหกรรม เช่น มี อย. การันตีถึงมาตรฐานโรงงานที่มีการคัดวัตถุดิบที่สะอาด มีความปลอดภัย ไร้สิ่งปนเปื้อนที่อาจเป็นอันตรายแก่ผู้บริโภค
3. โรงงานผลิตสบู่ก้อนที่มีบุคลากรเฉพาะทาง เป็นมืออาชีพและมีประสบการณ์ ไม่ว่าจะเป็น นักเคมีเครื่องสำอาง นักวิจัยและพัฒนาสูตร ทีมงานฝ่ายต่างๆ เช่น ฝ่ายดีไซน์ ฝ่ายการตลาด และทุกขั้นตอนการผลิตสบู่ควบคุมโดยผู้เชี่ยวชาญ เพื่อสร้างความมั่นใจว่าสบู่ที่ผลิตจะมีประสิทธิภาพและคุณภาพเหมือนกันทุกก้อน
4. โรงงานรับทําสบู่แบบ All in One เป็นทั้งโรงงานทําสบู่สมุนไพร โรงงานผลิตสบู่ออแกนิค โรงงานผลิตสบู่ผิวขาวที่รับสร้างแบรนด์สบู่ได้ทุกประเภทและรับผลิตสบู่สมุนไพรทุกชนิด อำนวยความสะดวกให้กับผู้ที่ต้องการสร้างแบรนด์สบู่ เพราะเริ่มแรกอาจสั่งผลิตสบู่เพื่อสร้างแบรนด์สบู่ผิวขาว และเมื่อมีการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภคจนแบรนด์ติดตลาด อาจมีการต่อยอดขยายแบรนด์สั่งทำสบู่สำหรับผู้ชาย สบู่สครับ ฯลฯ ก็สามารถดำเนินการต่อได้เลย
5. โรงงานผลิตสบู่สร้างแบรนด์ราคาถูกแบบต้นทุนต่ำแต่สินค้ามีคุณภาพ เพราะเรื่องราคาก็เป็นสิ่งสำคัญต่อเงินทุนของผู้ที่อยากทําสบู่แบรนด์ตัวเอง ต้องดูว่าโรงงานรับทำแบรนด์สบู่ขั้นต่ำเท่าไร
มีเกรดให้ลูกค้าเลือก ตั้งแต่เกรดพื้นฐานไปจนถึงเกรดพรีเมียม เพราะการรู้ต้นทุน ยอดผลิต ยอดขาย จะทำให้คำนวณค่าใช้จ่ายและสามารถวางแผนล่วงหน้าได้ แต่การเลือกโรงงานผลิตสบู่ราคาถูกในข้อนี้จะต้องอ้างอิงข้อ 1–4 ประกอบด้วย เพราะโรงงานผลิตแบรนด์สบู่ราคาถูกแต่ไม่มีคุณภาพในการผลิต จะส่งผลให้สินค้าแบรนด์ของคุณขาดความน่าเชื่อถือจากผู้บริโภคและขายไม่ได้
สำหรับผู้ที่อยากขายสบู่แบรนด์ตัวเองและกำลังมองหาพาร์ทเนอร์ที่ไว้ใจได้ โรงงานทำแบรนด์สบู่ที่มีมาตรฐานอย่าง ไอยู-คอสเมด กรุ๊ป พร้อมที่จะผลิตสินค้าให้แบรนด์ของคุณมีคุณภาพจนเป็นที่วางใจของผู้บริโภค จนสามารถเติบโตได้อย่างรวดเร็วและยั่งยืน เพราะเราเข้าใจว่าก้าวแรกของผู้ทำธุรกิจเป็นสิ่งสำคัญ เราจึงพร้อมจะก้าวและเติบโตไปกับแบรนด์ของคุณ เพราะความสำเร็จของลูกค้าก็คือความสำเร็จของ IU–COSMED GROUP